พลิกพื้นที่สวนเป็นแหล่งท่องเที่ยว

          ผืนน้ำจรดภูเขาที่ทอดยาวสลับซับซ้อน เป็นทิวทัศน์ที่มองได้จากสันต์ทรายรีสอร์ท อำเภอเขาคิชกูฎ จังหวัดจันทบุรี

           ผืนดินแห่งนี้ เทิดศักดิ์ สุวรรณพิทักษ์ เจ้าของสันต์ทรายรีสอร์ทเล่าว่า เดิมเป็นสวนผลไม้ของพ่อภรรยา แต่เมื่อโครงการอ่างเก็บน้ำคลองศาลทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกิดขึ้น ได้เสียสละพื้นที่เพื่อเป็นอ่างเก็บน้ำโดยได้รับค่าเวนคืนจากภาครัฐมาซื้อพื้นที่สวนโดยรอบ  แต่ลูกหลานเจ้าของพื้นที่มองเห็นโอกาสที่จะสร้างรายได้จากความงดงามของบรรยากาศรอบอ่างเก็บน้ำ จึงสร้างที่พัก จากนั้นจึงสร้างร้านอาหารรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะเดินทางมาเพื่อขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทบนเขาคิชกูฎ โดยรีสอร์ทแห่งนี้ได้ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองศาลทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริผ่านการบริหารงานของกลุ่มบริหารจัดการน้ำในพื้นที่

        โครงการอ่างเก็บน้ำคลองศาลทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกิดขึ้นจากพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาน้ำให้กับจังหวัดจันทบุรีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2531 โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานศึกษาวางโครงการและพิจารณาก่อสร้างโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่น้ำจันทบุรี เพื่อจัดหาน้ำช่วยเหลือสวนผลไม้ในเขตอำเภอต่างๆ ของจังหวัดจันทบุรีซึ่งมักขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งเป็นประจำทุกปี

โดยอ่างเก็บน้ำคลองศาลทรายเป็น1ใน23โครงการที่ดำเนินตามแนวพระราชดำริในการพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัดจันทบุรี มีขนาดความจุประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรประมาณ 13,900 ไร่ และสามารถช่วยเหลือพื้นที่ชลประทานตอนบนของอ่างเก็บน้ำอีกประมาณ 2,185 ไร่ โดยเกษตรกรในพื้นที่ได้จัดตั้งกลุ่มขึ้นบริหารการใช้น้ำ เพื่อให้สามารถใช้น้ำได้อย่างทั่วถึงและเกิดประโยชน์สูงสุด

พื้นที่จังหวัดจันทบุรีมีฝนตกถึง7เดือนต่อปี มีปริมาณน้ำฝนประมาณ 3,000มิลลิเมตรต่อปี มีการทำเกษตรกรรมโดยเฉพาะสวนผลไม้ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างมหาศาล และยังมีพื้นที่ติดชายทะเลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ การนำน้ำฝนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริสร้างความผาสุกให้กับราษฎร ได้แสดงถึงพระปรีชาญานที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร พระราชทานให้กับชาวจันทบุรี

การแก้ไขปัญหาน้ำในจังหวัดจันทบุรียังคงดำเนินต่อไป เพื่อให้บรรลุตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ที่สืบสานรักษาต่อยอดมาในรัชสมัยปัจจุบัน.