newsTourism NewsVariety News

30ปีแห่งการรอคอย…”เปิดอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้” อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 131 อย่างเป็นทางการ

            หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา  นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ร่วมพิธีเปิด อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 131 ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ในรัชกาลที่ 10 ต่อจากอุทยานแห่งชาติเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี

            สำหรับอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อ.สันกำแพง อ.ดอยสะเก็ด อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ และท้องที่ อ.บ้านธิ อ.เมือง จ.ลำพูน ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำปิง มีพันธุ์ไม้มีค่าและสัตว์ป่าที่สำคัญหลายชนิด และประกอบด้วยจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งเช่น น้ำตก อ่างเก็บน้ำ เขื่อน หน้าผา และยอดเขาที่สูงเด่น เป็นต้น มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 320,750 ไร่ หรือ 513.20 ตารางกิโลเมตร อุทยานแม่ตะไคร้ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2560 ที่ผ่านมา

            ด้านความเป็นมาของพื้นที่นี้ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุว่า เมื่อปี พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรบ้านแม่ตะไคร้ ได้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ การปฏิบัติตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติกันต่อเนื่องมาจากบรรพบุรุษ โดยเฉพาะการประกอบอาชีพเป็นไปด้วยความยากลำบาก ราษฎรมีความเป็นอยู่แร้นแค้น พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการเพื่อพัฒนาอาชีพและส่งเสริมคุณธรรม เพื่อให้ราษฎรมีอาชีพที่มั่นคงถาวร พอกินพอใช้ตามอัตภาพ และให้ยึดถือหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพการครองเรือน เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎรในท้องถิ่นที่ใกล้เคียง

            ต่อมาทรงมีรับสั่งและมีหนังสือจากสำนักราชเลขาธิการ ให้กรมป่าไม้ โดยกองอุทยานแห่งชาติดำเนินการจัดตั้งเป็นวนอุทยาน เพื่อให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ศึกษาค้นคว้าตามธรรมชาติ การอนุรักษ์ต้นน้ำลำธารและสัตว์ป่า โดยให้ดำเนินการสนองพระราชดำริในการปรับปรุงพื้นที่เป็นที่อยู่ธุดงค์สถานของพระภิกษุสามเณร และเป็นที่ปฏิบัติธรรมของประชาชนทั่วไป ให้ชื่อโครงการว่า โครงการพัฒนาชนบทยากจนตามพระราชดำริ การดำเนินการตามแผนงานโครงการเบื้องต้น ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานเลขานุการ กปร. จึงนับได้ว่าเป็นวนอุทยานที่มีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น

           จากนั้นในปี 2530 วนอุทยานแม่ตะไคร้ ได้ส่งข้อมูลการสำรวจเบื้องต้น เพื่อยกฐานะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งให้ นายโกศล สงศิริ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 ไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ และในปี 2531 อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ได้รายงานเพิ่มเติมว่า พื้นที่ของวนอุทยานที่ดำเนินการอยู่แล้ว และพื้นที่ป่าผนวกเข้าเพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา ป่าแม่ออน อำเภอสันกำแพง และป่าขุนแม่กวง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร เป็นพื้นที่ป่าประกอบด้วยสภาพป่าที่สมบูรณ์ และมีอิทธิพลต่อพื้นที่ลุ่มน้ำที่ใช้ในการเกษตรกรรมของราษฎรเป็นอย่างยิ่ง ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ที่สำคัญนานาชนิด สัตว์ป่าชนิดต่างๆ ตลอดจนจุดเด่นทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เหมาะสมที่จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ

            ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการเดินทางมา อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 35กม.และห่างจากตัวอำเภอดอยสะเก็ดประมาณ 17 กม.ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ บ้านแม่หวาน หมู่ที่ 3 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 

            การเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ สามารถเดินทางโดยใช้ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 118 (เชียงใหม่-เชียงราย) จากสี่แยกศาลเด็ก ผ่านอำเภอสันทราย,อำเภอดอยสะเก็ด ถึง กม.ที่ 33 + 200 เมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่,สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช